เชียงใหม่ -รองนายกฯ อนุทิน เป็นประธานปลูกกล้ากัญชาระบบอินทรีย์เพื่อใช้ทางการแพทย์ 12,000 ต้น ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้

 

รองนายกฯ อนุทิน เป็นประธานปลูกกล้ากัญชาระบบอินทรีย์เพื่อใช้ทางการแพทย์ ในโครงการปลูกกัญชาทางการแพทย์ 12,000 ต้น ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้

 

วันที่ 21 กันยายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกกัญชาการแพทย์ 12,000 ต้น พร้อมปลูกต้นกล้ากัญชาในระบบอินทรีย์ต้นแรกในแม่โจ้ โดยมี ดร.อำนวย ยศสุข นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พาวิน มะโนชัย รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการร่วมให้การต้อนรับ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้

โครงการนี้เกิดขึ้นจากการที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และองค์การเภสัชกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กัญชาและกัญชงเพื่อใช้ทางการแพทย์แบบครบวงจร ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีความพร้อมในด้านวิชาการเกษตรแบบองค์รวม ทั้งการปลูกพืชอินทรีย์มาตรฐาน IFOAM และ USDA ระบบการปลูกในโรงเรือนแบบสมาร์ทฟาร์ม การป้องกันศัตรูพืช วัสดุปลูก ธาตุอาหาร ในระบบอินทรีย์ การตรวจสอบการปนเปื้อนของโลหะหนัก ระบบการให้น้ำการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น การเตรียมการให้ผลผลิตของพืช คือดอกกัญชา การเก็บเกี่ยวตลอดจนวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว (POST HARVEST) อาทิ การแยกดอก บรรจุภัณฑ์ การจัดการใบและต้นกัญชา

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการพืชเสพติด ให้ปลูกกัญชาได้ในพื้นที่จำเพาะ คือที่ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในโรงเรือนสมาร์ทฟาร์มเนื้อที่ 3,040 ตารางเมตร ซึ่งสามารถปลูกกัญชาในรุ่นแรกได้จำนวน 12,000 ต้น และได้รับมอบเมล็ดพันธุ์กัญชาที่ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 12,000 เมล็ด ชื่อพันธุ์อิสระ 01 (ISSARA 01) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีสาร CBD และ THC ระดับสมดุลกันเป็นสายพันธุ์ดีเด่นของกรมการแพทย์

โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปลูกต้นกล้ากัญชาต้นแรก ภายในโรงเรือนสมาร์ทฟาร์มของมหาวิทยาลัย ในโครงการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ สำหรับกัญชาพันธุ์อิสระ01 ล็อตแรกนั้นจะให้ผลผลิตคือดอกกัญชาประมาณ 2.4 ตัน ในราว 4-5 เดือนข้างหน้า หรือประมาณเดือน กุมภาพันธ์ 2563 ภายใต้ระบบควบคุมการปลูกพืชอินทรีย์อัจฉริยะ และควบคุมความปลอดภัยในการเก็บรักษาอย่างเข้มข้น

นภาพร ขัติยะ /เชียงใหม่

Related posts